Copyright © nuttyi
Design by Dzignine
วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ฮ่องกงหลงงง #1 พาขึ้นรถเมล์

เมื่อวันแม่ที่ผ่านมา(9-12 สิงหา) ผมไปเที่ยวฮ่องกงกับแฟนมาครับ
(ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจาก TiGER iDEA ขอขอบคุณ @iPattt  มา ณ ที่นี้)
ซึ่งถ้าไม่นับการออกไปเที่ยวที่ประเทศเพื่อนบ้านตามด่านแบบแม่สาย ก็นับเป็นครั้งแรกที่ผมเดินทางออกจากราชอาณาจักไทยเลยทีเดียว (แฟนผมก็ด้วย ไปหลงด้วยกัน)

การเดินทางไป ไปด้วยสายการบินฮ่องกงแอร์ไลน์ HX774 ซื้อตั๋วเครื่องบินจากพี่ @soyoso
เครื่องออกจากไทย 2:15 ถึง 6:00 ตามเวลาปลายทาง

ก่อนขึ้นเครื่อง

MRT ต่อ ARL

ตามแผนคือแฟนมาหาที่หอผม รวมกันไปขึ้น MRT ศูนย์วัฒนธรรม ต่อแอร์พอร์ตลิงก์ไปสุวรรณภูมิ

ปัญหาแรกที่เจอคือลืมคิดว่าจะไปถึง MRT ได้ยังไง เลยจบด้วยการนั่ง taxi ไป MRT ห้วยขวาง
มาถึง MRT เพชรบุรี มีทางเชื่อมขึ้นไปถึง ARL มักกะสันแล้วนะ สะดวกดี


เครื่องอัตโนมัติปิด(ไม่แน่ใจว่าเคยใช้งานมั่งมั้ย)


จากรูปนี้ผมเอาไปโพสไว้ในเฟส มีพี่ที่รู้จักกันเคยทำงานอยู่ ARL เค้าบอกมาประมาณนี้

ลืมตั๋ว

หลังจากขึ้น ARL มาได้ซักแปบนึงผมก็ค้นกระเป๋าพบว่าลืมเอกสารที่ปรินท์ไว้ทั้งปึกเลยครับ มีทั้งตั๋วเครื่องบิน(e-ticket) ใบยืนยันจองห้องพัก สำเนา Passport แต่จะกลับไปหอก็เสียเวลาอีก เลยตัดสินใจไม่กลับ กะว่าทุกอย่างก็มีอยู่ในมือถือแล้ว คงไม่มีปัญหาอะไร

มาถึงสุวรรณภูมิด้วยความที่เอกสารไม่มี ก็รีบไปที่เคาท์เตอร์ของฮ่องกงแอร์ไลน์ สรุปคือยื่นแค่ Passport ก็พอ เค้าไม่ดู e-ticket ในมือถือผมด้วยซ้ำ ซึ่งก็สะดวกดีครับ หลังจากนั้นก็เข้าไปเดิน duty free นิดหน่อย เสียท่าให้แซนวิชไปชิ้นนึง(แพงชะมัด แต่หิวช่วยไม่ได้) เผลอแปบเดียวได้เวลาขึ้นเครื่อง


อ้อ ที่สนามบินมี wifi free บริการนะครับ เอา Passport ไปยื่นขอรหัสได้ ใช้ได้ หนึ่งชั่วโมง

HX774

ก่อนนอน


บนเครื่องมีจอให้ด้วย มีหนังให้ดูหลายเรื่องเหมือนกัน แต่สรุปว่าไม่ได้ใช้ เพราะต้องนอนเอาแรง


ครัวซองอันนี้อร่อยดี


อันนี้อะไรจำไม่ได้ แต่จำได้ว่ารสชาติใช้ได้


พระอาทิตย์ขึ้นที่เกาะฮ่องกง

นั่งไม่นานก็ถึงครับ มาเห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่เกาะฮ่องกงพอดี





ถ่ายผ่านหน้าต่างมาได้แค่นี้ เห็นรูปแล้วนึกถึงวันนั้น อากาศดีมากๆ

เหยียบเกาะฮ่องกง

ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง

สนามบินฮ่องกง หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง สร้างขึ้นบนเกาะขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นจากการถมทะเลระหว่างเกาะเช็คแลปก๊กและเกาะ Lam Chau จนกลายเป็นเกาะเดียว ในแต่ละปีสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 45 ล้านคน และน้ำหนักสินค้าอีก 3 ล้านตัน
หลังจากลงเครื่องมาก็เจอทางเลื่อนยาวๆ แบบนี้ครับ


โอ๊ะ เจอนางแบบ :P


หลังจากผ่าน ตม. มา ก็เข้าสู่ฮ่องกงเต็มตัวแล้วครับ(ผมว่า ตม. ที่นี่ไม่โหดนะ)


บัตร Octopus

สิ่งแรกที่ควรทำคือซื้อบัตร Octoput ครับ บัตรเดียวทำได้ทุกอย่างตั้งแต่ขึ้นรถ ซื้อของ ยันซื้อไอติมข้างทาง

ค่าบัตร 150 HKD มีตัง 100 HKD อีก 50 เป็นมัดจำ แต่ถ้าเอามาแลกคืนก่อน 7 วันจะได้มัดจำคืนแค่ 41 HKD ครับ(ถือว่าเสีย 9 HKD เป็นค่าความสะดวกละกัน)

และเนื่องจากผมไม่คิดจะซื้อบัตรเหมารายวันหรือราย 3 วัน ของ MTR เลยเติมเงินเพิ่มไปเผื่อๆ เลยครับอีก 100 HKD สรุปได้บัตรมา 2 ใบ(คนละใบกับแฟน) มีเงินใบละ 200 HKD เสียเงินสดไป 500 HKD


7-ELEVEN

พอได้บัตร Octopus แล้วสิ่งแรกทำคือสำรวจค่าครองชีพครับ เจอเซเว่นในสนามบินพอดี



มาม่าถ้วยละ 10 HKD ประมาณ 40 บาท


เบียร์ราคาเท่าๆ กับไทยกระป๋องละ 30-60 บาท


ส่วนน้ำอัดลมราคาพอๆ กับเบียร์


กระป๋องนี้ให้ผ่านครับน้ำผึ้งมะนาวอัดลม 30 บาท

ขึ้นรถเมล์

เนื่องจากตัวสนามบินกับที่พักของผมอยู่คนละเกาะกัน(ผมพัก Mong Kok อยู่เกาะ Kowloon) วิธีเดินทาง ก็จะมี Airport Express ค่าตั๋วประมาณ 90 HKD ซึ่งผมว่ามันแพงไปหน่อย แถมไม่ได้เห็นเมือง ผมเลยเลือกขึ้นรถเมล์ข้ามเกาะครับ ค่าโดยสารเหมาจ่าย 33 HKD(ที่จริงราคาผมก็มารู้ทีหลังนี่แหละ แต่คิดว่าน่าจะถูกกว่ารถไฟ บวกกับอยากเห็นบรรยากาศเมืองเลยเลือกทางนี้)
 

จากในตัวสนามบินหาป้ายรถเมล์ก็ไม่ยากครับ ป้ายค่อนข้างชัด เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมา เดินตามป้ายไปเรื่อยๆ ไม่ไกลก็จะถึงป้ายรถเมล์ คันที่ผมต้องขึ้นคือสาย 21A


รอซักสิบนาทีรถก็มาครับ


รถที่ผมขึ้นก็หน้าตาประมาณนี้ แต่ไม่ใช่คันนี้นะ รูปนี้ผมถ่ายจากบนรถอีกที

พอขึ้นรถผมไม่รอช้า วิ่งขึ้นชั้นสองแย่งชิงที่นั่งหน้าสุดมาได้ จากนั้นก็ตั้งกล้องถ่ายวีดีโอเลยครับ เม็มเต็มกันเลยทีเดียว

วีดีโอที่ผมถ่ายจากชั้นสองของรถครับ อันนั้นจับรวมแล้วทำ 3x มา ส่วนแบบปกติที่ไม่เร่งก็มีครับ



ตัดจบแค่นี้ก่อนเลยละกัน บล็อกหน้าจะเริ่มหลงแล้ว


0 comments :

แสดงความคิดเห็น