Copyright © nuttyi
Design by Dzignine
วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

2014 in Review

จากปณิธาน 2014 (อ่านรีวิวครึ่งปี)
  1. เจอเพื่อน เจอชาวบ้านบ่อยๆ - WIN แต่อยากได้มากกว่านี้อีกนิด
  2. บันทึกรายรับรายจ่ายทุกวัน ตามจริง - FAIL เลิกจดไปแล้ว ชีวิตดีขึ้นทันที ไม่ต้องคอยจดทุกอย่าง อันนี้เป็นนิสัยส่วนตัวด้วย สำหรับคนอื่นจดรายจ่ายอาจทำให้คุมเงินได้ดีขึ้น แต่สำหรับตัวเอง สามารถคุมเงินได้ดีโดยที่ไม่ต้องจดอยู่แล้ว ใช้เซนส์เอาซะส่วนใหญ่ว่าตอนนี้ใช้เงินเยอะเกินไปนะต้องกินเที่ยวน้อยลง
  3. กลับบ้านนอกให้ได้ 4 รอบ - WIN ได้กลับ 4 รอบเป๊ะๆ กลายเป็นว่าครึ่งปีหลังได้กลับบ้านรอบเดียว ดีที่ครึ่งปีแรกได้กลับบ่อย
  4. เรียนต่อ - FAIL ไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย ปีหน้าเอาใหม่
  5. เที่ยวไกลๆ 1 รอบ - WIN ข้อนี้ถือว่าว่าโคตร Win ได้เที่ยวเยอะกว่าที่คิดมาก เขาใหญ่ 2 วันกับเพื่อนที่มหาลัย, กระบี่ 4 วันกับแฟน, อัมพวา 1 วันกับบ้านแฟน, ลาว 3 วัน, อุทัย 1 วันไปบ้านพี่แฟน, ไปทำงาน (จริงๆ นะ) ที่เชียงใหม่ 2 วัน, ระยอง 2 วันกับเพื่อนที่มหาลัยแก๊งเดิม, ญี่ปุ่น 15 วันกับเพื่อนที่มหาลัย (เดี๋ยวเขียนบล็อก), ปิดท้ายปีด้วยหัวหิน 1 วัน
  6. นอนไม่เกิน ตีหนึ่ง - FAIL ข้อนี้ถือว่าไม่ได้ตั้งใจทำตามเลย แต่โดยรวมดีขึ้นเยอะ หลายวันนอนตั้งแต่ 4 ทุ่ม วันที่นอนเกินตีสองแทบไม่เหลือแล้ว
  7. เขียนแอพลงมือถือ 1 แอพ - FAIL ลบ Android Studio ทิ้งไปแล้ว..
  8. หัดลงทุน - WIN นับเป็นพัฒนาการเดียวจากครึ่งปีแรก ได้หัดลงทุนจริงจังแล้ว พยายามศึกษาในหลายแบบอยู่ แต่ยังไม่กำไร เพราะช่วงสิ้นปีตลาดพัง
  9. ออกกำลังกายอาทิตย์ละครั้ง - FAIL จบปีหน้าเอาใหม่
  10. ฝึกสกิลการเขียน/สื่อสารให้รู้เรื่องกว่านี้ - FAIL ไม่รู้จะบอกว่า WIN หรือ FAIL ดี เพราะมันก็พัฒนาเรื่อยๆ แต่ดีขึ้นรึเปล่าไม่รู้ แล้วก็ไม่ค่อยได้จริงจังเท่าไหร่ ถือว่า FAIL ละกันเพราะไม่ชัดเจน
วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2557

วิธีใช้ Google App Engine ทำเป็น Web Hosting พร้อม Custom Domain

โฮสเสียตังมีถมไป แต่ถ้าอยากได้ของฟรีล่ะ?

เรื่องของเรื่องคือผมอยากได้โฮสมาใช้กับโดเมนที่พึ่งจดไปครับ ในใจตอนแรกนึกถึง Amazon Web Services เพราะมันถูก (หรือฟรี) ตอนเรียนเคยศึกษาอยู่นิดหน่อย แต่พอลองของจริงแล้วยาก..

พอจะมาใช้ Google Drive (อ่าน วิธีทำ Google Drive ให้เป็น Web Hosting) ก็ติดตรงที่ Google Drive ทำ Custom Domain เองไม่ได้ เอา CNAME ชี้มาตรงๆ ก็ไม่ได้เพราะติด path ลองหาวิธี ก็ไปเจอ gweb.io ซึ่งเป็นบริการที่ช่วยให้เรา Custom Domain เว็บที่ทำบน Google Drive ได้ แต่ปัญหาคือมันไม่ฟรี (เคยฟรี) เลยจบไป

สรุปเลยมาลงเอยกับ Google App Engine ครับ (เป็นคนละตัวกับ Google Apps นะ)

App Engine ฟรีมั้ย?

ฟรีแบบจำกัด แต่ก็เหลือเฟือสำหรับการเริ่มต้นครับ ลองพิจารณาดูโควตาต่อวัน
วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ทันที

เรา..ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าในยุคที่การสื่อสารลำบากกว่านี้ ในยุคที่ต้องส่งจดหมายจีบกัน มันเป็นยังไง เราโตมาในยุคที่มีโทรศัพท์และ sms แล้ว ตอนเด็กมือถือยังไม่แพร่หลาย เรามีโทรศัพท์บ้าน มีอะไรก็โทรหาเพื่อน สงสัยการบ้าน มีเรื่องด่วน ก็ยกหู โทร

โตมาอีกหน่อย เรามีมือถือใช้ เป็นยุคของการส่ง sms อวยพรวันเกิดเพื่อน คิดถึงเพื่อน จีบกัน อวยพรปีใหม่ สงกรานต์ คริสต์มาส นั่นมีสิ่งที่เรียกว่า sms และโทรศัพท์มือถือ ยังจำได้เลย เรามีสมุดเพื่อจด sms ของเพื่อนที่ส่งให้เรา ก่อนจะลบทิ้ง เพราะโทรศัพท์เราเม็มน้อย

ในยุคเดียวกันนั้นยังมีสิ่งหนึ่งที่เรียกกันว่า msn เราเปิดคอม เราออนเอ็ม เรารอใครบางคนออนไลน์เด้งขึ้นมาที่มุมขวาล่างของจอ บางทีเราเปิดคอมมานั่งเล่นเกม เล่นเว็บบอร์ด อ่านข่าว เพื่อรอให้ใครบางคนออนขึ้นมา เค้าออนเราก็คลิก ทัก "สวัสดี" อ้าว เค้าออฟไลน์ไปแล้วฉิบ มันเป็นยุคที่การสื่อสารแบบข้อความ คือการรอ รอ

แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อมี BB เราไม่เคยมี BB เป็นของตัวเองหรอก มันแพง แต่มือถือเราเล่นเน็ตได้นะ เราออนเอ็มบนมือถือได้บ่อยๆ แต่คนเล่นเอ็มก็น้อยลงไปแล้ว เราไม่แน่ใจว่าคนหายไปจากเอ็มกันตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจจะเป็นช่วงที่ไมโครซอฟท์เปลี่ยนชื่อมันจาก msn เป็น wlm แล้วทำให้เอ็มพลัสใช้ไม่ได้รึเปล่า แต่เราก็คงเปิดคอมออนเอ็มน้อยลงช่วงนั้นนั่นแหละ

ทุกวันนี้ การรอเป็นเรื่องไร้สาระ คนเราไม่สามารถรอให้ใครบางคนตอบได้อีกต่อไป เราสามารถดราม่ากันด้วยตัวอักษรไม่กี่ตัว read sent seen อ่านแล้วไม่ตอบก็ดราม่า ไม่อ่านก็ดราม่า

เรา..ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าในยุคที่การสื่อสารลำบากกว่านี้ ในยุคที่ต้องส่งจดหมายจีบกัน มันเป็นยังไง เรารู้แค่ว่าเราชอบตอนที่เรายังต้องเปิดคอม มานั่งออนเอ็มรอ รอใครบางคน มากกว่าตอนนี้ มากกว่าตอนนี้ที่ "ต้องตอบทันที"

เห็นเพื่อนทะเลาะกับแฟนเรื่องไม่ตอบแชทเลยนึกถึงโพสนี้
โพสครั้งแรก 04/05/2557 ที่ facebook.com/istyle
วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

จด โดยไม่เขียน


เคยมั้ย นึกอะไรออกในเวลาที่จดไม่ได้ เช่น ตอนจะหลับ หรืออยู่ในโรงหนัง สุดท้ายหนังจบออกจากโรงก็ลืมไปเลยว่าเคยคิดเรื่องนี้อยู่ในหัว แล้วมานึกออกทีหลัง

ผมมีวิธีกันลืมในเหตุการณ์แบบที่ว่าโดยการจัดของให้อยู่ผิดตำแหน่ง เช่นถ้าอยู่ในโรงหนังผมจะหยิบแบงค์ขึ้นมาม้วน แล้วเก็บใส่กระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋ากางเกงไว้ พอเห็นแบงค์ม้วนอีกรอบผมจะนึกออกว่าตอนที่ผมม้วนแบงค์ผมนึกอะไรอยู่ ถ้าตอนนอนนี่ยากหน่อยเพราะจะหลับ ขยับตัวมากก็ตื่นอีก ผมใช้วิธีถอดถ่านรีโมทแอร์ ซึ่งจริงๆ ก็แล้วแต่จะประยุกต์กัน

ที่จริงวิธีนี้คิดขึ้นได้จากเวลาที่จดโน้ตลงแอพ แต่ไม่ได้เขียนข้อความที่คิดอยู่ออกไปทั้งหมด เช่น คิดออกว่าลืมดู HORMONES วัยว้าวุ่น ตอนล่าสุด เราก็จะจดลงไปสั้นๆ ว่า "ฮอร์โมน" จบ แต่ทีนี้บางจังหวะที่รีบมากๆ เราก็จะจดลงไปว่า "ฮ" หรืออาจจะมีแค่โน้ตว่างๆ แต่สุดท้ายเวลาที่เปิดขึ้นมาเราก็จะนึกออกว่า โน้ตว่างๆ เนี่ยเราจดตอนที่เรากำลังนึกถึงอะไร (ถ้านึกไม่ออกก็ซวยไป) เลยเป็นแนวคิดว่า แค่มีอะไรซักอย่างให้นึกย้อนกลับไปได้ก็พอ

ทีนี้พอผมดูหนังในโรงผมจะมีประเด็นเยอะมาก แต่ดันจดไม่ได้ เรื่องเอามือถือขึ้นมานี่ลืมไปได้เลย ผมเลยลองเอาแนวคิดนี้มาใช้โดยการม้วนแบงค์ซึ่งก็ได้ผลดี สุดท้ายก่อนนอนเป็นเวลาที่ผมคิดอะไรได้เยอะมาก แต่ส่วนใหญ่จะลืมไปเพราะขี้เกียจลุกขึ้นมาจด เดี๋ยวตื่น (แล้วรู้ได้ไงว่าลืม!?) เลยลองใช้วิธีนี้ด้วย แต่บางทีก็ไม่ได้ผล พยายามนึกแล้วก็นึกไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ แต่รู้ว่ามีประเด็นแน่ๆ แต่ก็ช่วยได้เยอะเหมือกันกัน

ยังไงลองเอาไปใช้กันดูครับ :)
วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

half a year

จากปณิธาน 2014
  1. เจอเพื่อน เจอชาวบ้านบ่อยๆ - WIN มีชีวิตอยู่นอกหอมากขึ้น กินข้าว-ไปเที่ยวกับเพื่อนเก่าบ้าง
  2. บันทึกรายรับรายจ่ายทุกวัน ตามจริง - FAIL ยังจดอยู่นะ แต่ไม่ครบ ใบเสร็จงานหนังสือเมื่อเมษายังไม่ได้จดลงโปรแกรมซักที 
  3. กลับบ้านนอกให้ได้ 4 รอบ - WIN ถ้ารวมตอนปีใหม่ด้วยครึ่งปีแรกกลับบ้านไป 3 รอบละ แต่กะว่าครึ่งปีหลังจะกลับอีกซัก 2 รอบ
  4. เรียนต่อ - FAIL ไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย หมดไฟชั่วคราว
  5. เที่ยวไกลๆ 1 รอบ - WIN เขาใหญ่, กระบี่, อัมพวา, ลาว ไม่รู้ไกลพอรึยัง
  6. นอนไม่เกิน ตีหนึ่ง  - FAIL ยังนอนตีสองอยู่บางวัน แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่เกินตี 1 แล้ว พัฒนาการดีขึ้น
  7. เขียนแอพลงมือถือ 1 แอพ - FAIL โดยสิ้นเชิง
  8. หัดลงทุน - FAIL โดยสิ้นเชิง
  9. ออกกำลังกายอาทิตย์ละครั้ง - FAIL ก็ยังพยายามวิดพื้น ซิทอัพอยู่กับห้องนิดหน่อย ตอนนี้อยากว่ายน้ำ หาสระก่อน
  10. ฝึกสกิลการเขียน/สื่อสารให้รู้เรื่องกว่านี้- WIN ถือว่าได้ทำ แต่ก็ยังไม่ดีเหมือนเดิม
ที่ทำได้น้อยกว่าที่ทำไม่ได้แฮะ ครึ่งปีหลังพยายามใหม่
ไว้สิ้นปีมาดูกันอีกที :)
วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2557

กินเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก : Sushi Den

ว่าจะรีวิว Sushi Hiro แต่ไม่ได้เขียนซักที ขอลัดคิวด้วย Sushi Den ก่อนแล้วกัน เมื่อวานไปกินที่สาขา เซ็นทรัลลาดพร้าว กับเพื่อนมา ในรีวิวนี้จะขอนำบางอย่างไปเทียบกับ Honmono Sushi ที่เคยเขียนถึงไปแล้วจะได้มีตัวเปรียบเทียบครับ

Sushi Den เป็นร้านซูชิรางเลื่อน แต่ก็มีเมนูให้สั่งกับพนักงานด้วย (เสียดายไม่ได้ถ่ายหน้าเมนูมา) บนรางก็จะแบ่งราคาด้วยสีของจาน แต่ผมว่ามันดูค่อนข้างยากนิดนึง ไหนจะดูของบนจาน มาดูสีจาน ถ้าจำไม่ได้ก็จำสีมาเทียบราคากับกระดาษตรงหน้ากว่าจะคิดได้ว่าจะหยิบ จานเลยไปแล้ว แถมบางราคาสีคล้ายกันมาก - -"

อย่างแรกที่ได้มาคือชาร้อนราคา 40 บาทเท่า Honmono แต่ผมว่าหอมกว่า ที่สังเกตุได้คือร้านนี้แม้แต่ผ้าเย็นก็ไม่มีให้ จานแถมกินเล่นไม่ต้องพูดถึง แต่พนักงานบริการดีนะ (ตรงนี้จะตรงกันข้ามกับ Sushi Hiro ที่ของแถมเยอะมาก แต่พนักงานบริการไม่ดี ไม่ทัน)

หลังจากสั่งอาหารไป ระหว่างนั้นก็มองๆ บนรางเลื่อนไปว่ามีอะไรน่ากิน (ซึ่งไม่ค่อยมี สั่งเอาตามเมนูจะเวิร์คกว่า) เหลือบไปเห็นจานนี้ 65 บาท ดูแล้วไม่แพงเลยหยิบมาลอง ซึ่งไม่ผิดหวังครับ อร่อยดี แต่เป็นอะไรไม่รู้เหมือนกัน ใครรู้บอกผมด้วย

จานนี้เป็นลิ้นวัวย่าง 109 บาท หอมมากครับ คือกลิ่นดีมาก รสชาติใช้ได้ แต่เหนียวครับ จะกัดครึ่งคำทำไม่ได้ เคี้ยวอยู่นานมากกว่าได้กลืน

อันนี้เมนูกึ่งบังคับ แซลม่อน จานนี้เป็นท้องแซลมอน 125 บาท แซลม่อนเนื้อดีนะ สดดี แต่ชอบของ Honmono มากกว่า เสียดายว่าคำนี้วาซาบิขึ้นเลยไม่ทันได้รับรสเท่าไหร่ แต่ทำให้รู้อย่างนึงว่าที่นี่ใช้วาซาบิดี ใส่หน่อยเดียวพอ ในภาพจะแอบเห็นว่าข้าวปั้นไม่ดี แตกง่ายมาก นี่ขนาดอยู่บนจานยังแตกมาเลย

ถ่ายอีกด้านให้เห็นลายแซลม่อน แอบติดหอยเชลย่างมาด้วย หอยเชลสองคำนั่น 155 บาท หอมอร่อยครับแต่แอบแพง

เมนูนี้ชื่อโรลปูอัดรสเผ็ด 155 บาท ธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษ ผ่านไป

หมูย่างชีส 65 บาท ไหม้นิดหน่อยหอมๆ เพื่อนบอกว่าเหมือนข้าวเหนียวหมูย่าง ซึ่งก็จริง 555 อร่อยดีแต่แพงรึเปล่า?

แซลม่อนอโวกาโด 109 บาท ชิ้นนี้รสกลมๆ อโวกาโดชิ้นใหญ่นะ แต่กินปั๊บหายไปเลย ละลายไปเลย

ยำแซลม่อน 85 บาทไม่ค่อยถึงรสเท่าไหร่ แต่แก้เลี่ยนได้

เนื้อวากิวเฉยๆ มาก คำนี้คำเดียว 155 ผมว่าแพง และไม่คุ้ม แต่ก็หอมดีนะ

จบที่เก็บเงิน ร้านนี้มีบวกกับเค้าด้วยอีก 17% สองคน 1300 บาท แพงกว่าที่ไปกิน Honmono มาซะอีก โดยรวมผมว่าโอเคในระดับของขึ้นห้าง เดินทางสะดวก แต่จะมากินอีกมั้ย ก็คงไม่มาเอง ราคาประมาณนี้กิน Honmono (สาขา Park Lane เอกมัย) บรรยากาศดี บริการดีกว่า หรือไม่ก็ Sushi Hiro ที่ถูกกว่าเยอะ
วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2557

พานั่ง Uber แท็กซี่ไฮโซ

Uber เป็นบริการแท็กซี่รูปแบบใหม่ที่พึ่งเข้ามาในไทย ซึ่งบริษัทเค้าบอกว่า "Uber คือบริการคนขับรถส่วนตัวสำหรับทุกคน" แต่ผมขอเรียกว่าแท็กซี่ไฮโซแล้วกันเข้าใจง่าย (เท่าที่รู้มาตอนนี้มีรถให้บริการสองแบบคือ Mercedes-Benz E-Class กับ Toyota Camry)

ก่อนใช้บริการ

  1. สมัครสมาชิกที่ เว็บ Uber  กรอกข้อมูลทั่วไป ชื่อ เบอร์โทร อีเมล และเนื่องจาก Uber เป็นบริการที่ไม่เก็บเงินสดจากลูกค้าจึงต้องทำการผูกบัตรเครดิตเอาไว้ด้วย ซึ่งตอนผูก Uber จะทดลองหักเงินในบัตรจำนวน 0.00 บาท?? (แต่เดี๋ยวก่อนถ้าคุณสมัครผ่าน ลิงก์ของผม คุณจะได้เครดิต 300 บาทสำหรับการทดลองใช้บริการครั้งแรกทันที #พื้นที่โฆษณา) 
  2. ลงแอพ Uber สำหรับ iOS(iPhone, iPad) หรือ Android

ค่าใช้บริการ

Uber คิดค่าบริการเริ่มต้น 45 บาท + 2.50 บาท/นาที + 9.20 บาท/กิโลเมตร ขั้นต่ำที่ 75 บาท
(TAXI-METER ทั่วไปคิด 5 - 8.50 บาท/กิโลเมตร หรือ 1.50 บาท/นาที ในกรณีรถติด)

ลองนั่ง

เมื่อเช้าผมนั่งรถทัวร์มาลงที่หมอชิตเลยได้โอกาสลองใช้ Uber เพื่อเข้าหอครับ (ช่วงสงกรานต์กลับบ้านนอกมา)
เปิดแอพมาจะเจอจุดสีฟ้าคือจุดที่เราอยู่ เราสามารถเลือกจุดที่จะให้รถมารับได้ (หมุดสีเขียว) ผมเลื่อนไปที่ถนนด้านข้าง แล้วกดเรียกรถ โปรแกรมก็จะหารถคันที่ใกล้ที่สุดให้ (ระหว่างเลื่อนหมุดสีเขียว จะมีการคำนวณให้ด้วยว่ารถจะมาถึงภายในกี่นาที)
เมื่อได้รถแล้ว จะมีรายละเอียดของคนขับให้เราดู ผมได้คนขับชื่อคุณโยธิน เป็นรถ Toyota Camry ทะเบียน ณข2152 เราสามารถกดที่ลูกศรสามเหลี่ยมเพื่อยกเลิกการเรียกรถ, แชร์ค่ารถกับเพื่อน หรือโทรหาคนขับได้ด้วยครับ 
ระหว่างรอรถก็สามารถดูได้ตลอดว่ารถที่เราเรียกมาถึงไหนแล้ว และเนื่องจากจุดที่ผมปักหมุดไว้ ตำรวจห้ามจอดรถ ผมเลยเดินเลยมาอีกนิดนึง ซึ่งจากการสอบถามพี่คนขับแล้วไม่เป็นปัญหาครับ ในหน้าจอของพี่เค้าจะมองเห็นได้ด้วยว่าเรายืนอยู่จุดไหน
รถมาถึงแล้วครับ นี่พี่โยธินที่มาขับรถให้ผมวันนี้
รถนำทางด้วย iPad mini (ไม่แน่ใจว่า with Ratina display ด้วยรึเปล่า)
พอเราขึ้นรถปั๊บ หน้าจอในมือถือของเราจะเปลี่ยนเป็นแบบนี้

จากการพูดคุยกับพี่โยธิน พี่เค้าบอกว่าพึ่งซื้อรถคันนี้มา ตั้งใจเอาไว้ขับรับส่งผู้โดยสารจากโรงแรมไปสนามบิน ปกติวันนึงจะขับได้สามสี่เที่ยว เพราะไกล พอดีมีเพื่อนชวนมาสมัคร Uber ก็เลยลองมาสมัครดู งานก็เยอะขึ้นเงินดีขึ้น เคยมีวันที่ได้ถึงหมื่นด้วย (ไปพัทยา)
  • Uber ไม่บังคับว่าใครจะทำงานเวลาไหน ใครอยากรับงานก็แค่เปิดโปรแกรม พอมีลูกค้าเรียกเข้ามาก็จะมีแจ้งเตือน (พี่เค้าบอกว่าเปิดทีไรก็รอไม่นาน ได้งานตลอด)
  • เท่าที่พี่โยธินทราบ ตอนนี้มีรถบริการกับ Uber อยู่ 50+ คัน เพิ่มขึ้นทุกวัน
  • พี่โยธินพูดภาษาอังกฤษเก่ง พยายามพูดให้ผมฟังตลอดทางว่าพูดยังไงกับลูกค้าฝรั่ง
  • คนขับได้เงิน 200% จากค่าโดยสาร มีวันนึงกล่อมลูกค้าไปส่งที่พัทยาได้ ค่าโดยสาร 6,000 บาท พี่เค้าได้จาก Uber  12,000 บาท (ผมคิดว่าน่าจะเฉพาะช่วงเริ่มต้น เป็นการจูงใจเรียกคนขับเข้าระบบ)
  • Uber จำกัดผู้โดยสารไว้ที่ 4 ที่นั่ง แต่พี่เค้าเคยเจอฝรั่งเรียกมาแล้วมี 6 คน พี่เค้าก็ยอมไปให้ (ตอนที่ฝรั่งถามพี่เค้าตอบว่า ถ้าคุณสามารถขึ้นได้ผมก็ไปส่งได้)
  • ลูกค้าจ่ายเงินให้ Uber ผ่านบัตรเครดิต พี่เค้าก็ได้เงินเข้าบัญชี
  • ผมว่าข้อเสียของ Uber อย่างนึงคือ ไม่รู้ว่าตอนนี้ค่ารถเป็นเท่าไหร่แล้ว แต่กลุ่มลูกค้าที่ใช้งาน Uber คงอยากรู้ราคาแค่ตอนจ่ายล่ะมั้ง?

ถึงปลายทางแล้วครับ พี่เค้าเปิดให้ดูว่าค่าโดยสาร 149 บาทนะ (หักบัตรเครดิตเอา) ซึ่งดูในมือถือผมก็ขึ้นเหมือนกันครับ เท่ากัน สามารถให้คะแนนคนขับได้ด้วย (ย้อนกลับไปดูตอนที่ผมเรียกรถ พี่โยธินมีคะแนน 4.8 ดาว)

149 บาทแพงมั้ย? ผมจำได้ว่าครั้งล่าสุดที่ผมนั่งแท็กซี่จากหมอชิตมาหอ รถสองคันแรกพยายามให้ผมเหมาในราคา 200 บาท ส่วนคันที่สามที่ยอมกดมิเตอร์ให้ ผมเสียไป 90 บาทครับ ผมเองยังไม่เคยใช้บริการประเภท GrabTaxi หรือ EasyTaxi เท่าที่รู้จะคิดเงินเพิ่มประมาณ 20 - 25 บาทจากมิเตอร์ ซึ่งบวกกับราคา 90 ในวันนั้น ก็ตกอยู่ที่ประมาณ 110 - 115 บาท ลองชั่งน้ำหนักเรื่องราคากับบริการผมว่า Uber คุ้มนะ นั่งสบาย รถเข้าขั้นดีมาก พนักงานสุภาพ 

ขอพี่เค้าถ่ายรูปรถมานิดหน่อย

เสร็จแล้วมีใบเสร็จส่งมาให้ในเมลด้วยครับ รายละเอียดครบ เวลาที่ขึ้นรถ ระยะทาง ราคาแยกประเภท ความเร็วเฉลี่ย รวมถึงเส้นทางที่รถพามา และถ้าของหายสามารถสอบถามได้ด้วย

เมื่อบ่ายเปิดโปรแกรมขึ้นมาดูเล่นๆ มีรถของ Uber อยู่แถวที่ทำงานสามคันเลยทีเดียว

สุดท้ายนี้ อย่าลืมเอารหัส Referee ของผมไปใช้กันนะครับ :D >> GD9CK << #พื้นที่โฆษณาอีกที


วันอังคารที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2557

April 1, 2014

สวัสดีวันโกหก
วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

กินเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก : ยำแซ่บบุฟเฟ่ต์ 169.-

วันก่อนลองยำแซ่บบุฟเฟ่ต์มาครับ(สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า) ต่อคิวปั๊บ พนักงานบอกเหลือ 6 คิว ตายๆ มีเวลาชั่วโมงเดียวซื้อตั๋วหนังไว้รอบทุ่มครึ่ง แต่สุดท้ายก็กิน รอคิวไม่นานนะ สิบนาทีได้เลย เร็วกว่าที่คิด

บุฟเฟ่ต์ยำแซ่บมีเวลาให้ชั่วโมงครึ่ง ในราคา 169 บาทไม่บวกเพิ่มครับ ออกตัวไว้ก่อนว่ายำแซ่บเนี่ยเคยกินมา 1 ครั้งถ้วน และลืมไปแล้ว เลยเปรียบเทียบกับจานปกติไม่ได้ ลักษณะก็เป็นสั่งเอาครับ คือ All You Can Eat ไม่ใช่เดินตัก สั่งได้เกือบทั้งร้านยกเว้นเมนูน้ำกับขนมหวาน สั่งน้ำเปล่ากับโค้กได้


ไม่รู้เพราะวันนั้นใจร้อนหรือร้านเค้าช้าจริง แต่รู้สึกว่าช้าครับ กว่าจะมารับออเดอร์ กว่าจะได้ของ ได้มาอย่างแรกก็โค้ก กินให้ใจเย็นไปก่อน แต่กินโค้กจนหมดแก้วแล้วของก็ยังไม่มา

ส่วนของโค้กนี่รสชาติโอเคครับ หวานเย็นกำลังดี ไม่ซ่าจนเกินไป น้ำแข็งเม็ดเล็กเคี้ยวได้กำลังพอดีคำ ไม่แข็ง กินกับอาหารรสจัดเข้ากันมาก(บ้าละ รีวิวโค้ก) คือโค้กนี่ผมว่าดีครับ 169 บาท เลือกโค้กได้ น้ำเปล่าก็ไม่ใช่น้ำประปานะครับ เป็นน้ำขวด สรุปแล้วผมกินโค้กไปสามแก้ว น้ำเปล่าขวดนึง เติมโค้กนี่ต้องเรียก เค้าไม่มาเติมให้


ผมเข้าร้าน สั่งอาหารเสร็จตอน 18:40 ตอนนั้นรู้สึกเหมือนรอซักชาตินึงได้ 19:05 จานแรกก็มา

ยำถั่วพูกุ้งสด จานจึ๋งเดียว แถมไม่มีไข่ต้ม แต่อร่อยครับ ให้ผ่าน มีกุ้งตัวเล็กๆ มาตัวนึง


หลังจากนั้นอาหารก็ทยอยมาเรื่อยๆ ผมลงไม่ได้เรียงลำดับนะครับ

จานนี้ปลาลวกจิ้ม ได้ปลามาสองชิ้นกับผักกองนึง ซึ่งเค้าก็ใจดีนะ ไม่ได้ให้กินผักหมด ผมกินปลาหมดก็คืนจานเค้าไปละ เมนูนี้ไม่มีความเห็นครับ ทั่วไป


ตำทอดกุ้งสด จานนี้ก็ให้ผ่าน รสจัดดี เปรี้ยวเค็ม กินกับข้าวเหนียวอร่อยเลย แต่พอดีไม่ได้สั่งข้าวเหนียวครับ ไม่เน้นแป้ง กลัวอิ่มเกิน


ยำลำไย มาน้อยอีกเหมือนเดิม แต่ไม่เป็นไร มันบุฟเฟ่ต์ น้อยก็สั่งใหม่ กินได้หลากหลายดี ผมกินเผ็ดมากไม่ได้ จานนี้เผ็ดไปหน่อย


ยำเย็นตาโฟกุ้งสด หรือชื่ออะไรประมาณนี้ จำไม่ได้ เห็นในรีวิวเชียร์กันเยอะ ซึ่งก็อร่อยจริง แต่เส้นเยอะมากครับ ตัดกำลังเห็นๆ ทีงี้ล่ะได้จานใหญ่


กุ้งลวกจิ้ม ได้กุ้งมาสามตัว ก็โอเค กินเล่นได้ มาคราวหลังจะสั่งซักห้าจาน


ผัดไทกุ้งสด จานนี้เด็ดครับ อร่อยมาก แนะนำให้สั่งมาลอง แล้วก็เป็นธรรมดาครับ จานไหนมีเส้นจะได้ปริมาณเยอะทันที


คอหมูย่าง อร่อยครับ ย่างไม่ไหม้ มันไม่เยอะ กำลังดี รสโอเค

มีอีกสองจานที่ไม่ได้ถ่ายรูป จำไม่ได้ว่าอะไร

สรุปคุ้มมั้ย? ผมว่า มาคนเดียวคุ้มครับ อาหารอร่อยทุกอย่าง ได้กินของหลากหลาย ซึ่งถ้าไม่บุฟเฟต์ ราคา 169 บาท อาจกินได้แค่ 2 อย่าง ราคานี้รวมน้ำเปล่าและโค้ก เวลาชั่วโมงครึ่งก็อิ่มพอดี แต่ถ้ามีชั่วโมงเดียวแบบผมอาจจะรนไปนิดนึง พนักงานไม่ค่อยสนใจนี่พอเข้าใจได้ว่าคนเยอะ ผมไม่ซีเรียส กินอิ่มพอแล้ว เรื่องรอนานต้องทำใจครับ รอครึ่งชั่วโมงคิดว่ารอพิซซ่าก็เท่านี้ละกัน แต่ถ้ามากับเพื่อนซัก 2-3 คน ผมว่าไม่บุฟเฟ่ต์ดีกว่า ราคา 169 ถ้าสามคนนี่ก็ 500 เข้าไปแล้ว สั่งเป็นจานเอาเผลอๆ ถูกกว่านี้อีก แต่ถ้าเป็นคนกินจุก็ไม่ว่ากัน เล็งไว้ว่าจะไปกินอีกซักรอบก่อนหมดโปร
วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

กินเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก : Honmono Sushi


Honmono Sushi ได้ยินชื่อเสียงร้านนี้มาว่าดี เมื่อวานซืนพึ่งมีโอกาสได้ไปลองทานกับแฟนมา ไปสาขา Park Lane เอกมัยครับ มีโปรโมชั่นอยู่พอดี 


เข้ามาก็ตามสูตรครับ มีผ้าเย็นให้เหมือนร้านซูชิทั่วไป


ชาร้อนรีฟิลคนละ 40 บาท อันนี้ไม่มีอะไรมากเป็นชาทั่วไป


มีของทานเล่นให้ฟรีด้วย ผมชอบกุ้งทอดนะ นิ่มๆ กินแล้วนึกถึงกุ้งทอดที่เป็นแพๆ ที่กินกับน้ำจิ้มไก่ยังไงไม่รู้ ส่วนแฟนชอบปลาแข็งๆ นั่น ก็กินเล่นเพลินๆ ดี

ลูกโซ่ ลูกโซ่

แชร์ลูกโซ่มีระบาดในทุกสมัย เปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อยๆ ครับ
  • แชร์ลูกโซ่แบบขายของนี่เบสิค ได้ของล็อตใหญ่ราคาถูก (iPhone, บลายธ์)
  • แฝงในรูปธุรกิจเครื่อข่าย (ธุรกิจเครื่อข่ายที่ไม่หลอกลวงก็มีอยู่)
  • ช่วงนึงก็จะมาเล่นกับการลงทุนที่เข้าใจยากๆ เช่นตลาดต่างประเทศ แล้วบอกว่า ไม่ต้องรู้มากหรอก แต่ได้ตัง
ขอออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินอะไรแบบนั้น ทั้งหมดก็จากการสังเกตของตัวเอง พอดีช่วงนี้เห็นแชร์ลูกโซ่ในการลงทุนเงินตราต่างประเทศกลับมา เลยหงุดหงิดนิดหน่อย

เอาวิธีระวังตัวไปแล้วกัน
  1. ชวนเพื่อนแล้วได้ตัง ได้ค่านายหน้า ค่าแนะนำ
    - ถ้ามีอะไรที่ได้ "จากค่าสมัครของเพื่อน" นั่นให้ระวังไว้ก่อนเลย ทางที่ดีอย่าไปยุ่ง แต่ลองศึกษาดูก็ได้ไม่เสียหาย
    - ความจริงถ้าเป็นธุรกิจที่ใช้เครือข่าย เงินที่ได้ควรจะมาจากการใช้สินค้าหรือบริการต่อครั้งของลูกในเครือข่าย ไม่ใช่จากการสมัครโดยตรง

  2. ความเสี่ยงต่ำ มีแต่ได้กับได้
    - แชร์ลูกโซ่มักจะบอกว่าตัวเองไม่มีความเสี่ยง
    - การลงทุนมีความเสี่ยงครับ การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง ยิ่งได้เยอะก็ยิ่งเสี่ยงเยอะ

  3. ไม่ต้องรู้มากแต่ได้เงินดี มันเป็นระบบออโต้น่ะ
    - การจะลงทุนเราควรศึกษาระบบให้ดีครับ โดยเฉพาะถ้าเค้าเอาตังเราไปเยอะๆ เราก็ควรรู้ว่าเค้าเอาไปทำอะไรบ้าง ไม่ใช่บอกว่ามัน auto เดี๋ยวระบบจัดการเอง

  4. น่าเชื่อถือ มีใบรับรองจากหน่วยงานต่างๆ
    - ก็ต้องตรวจสอบครับว่า ไอ้หน่วยงานนั้นมันมีจริงรึเปล่าน่าเชื่อถือมั้ย ถ้าตัวหน่วยงานรับรองนั้นน่าเชื่อถือ ก็เมลถามเค้าไปตรงๆ เลยว่า มีบริษัทนี้อยู่ในระบบมั้ย
    - ถ้าเป็นเว็บเพื่อเช็คก็ต้องดูความน่าเชื่อถือของเว็บครับ ใครดูแลเว็บ หน่วยงานไหน ความน่าเชื่อถือของเว็บก็มีส่วน ถ้าเป็น https ตัวเว็บก็ยิ่งน่าเชื่อถือ(แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะชัวร์) เว็บปลอมแม่งสร้างง่ายจะตาย

  5. เป็นธุรกิจสีเทาๆ
    - เช่นได้ของถูกจากโรงงาน ของไม่มีภาษี เป็นการลงทุนในต่างประเทศที่ กลต ไม่ได้รับรอง

  6. ได้เงินจริง ถอนได้
    - ช่วงแรกของธุรกิจแบบนี้เราจะถอนเงินได้ครับ ดูเหมือนว่าได้จริงๆ จนสุดท้ายเราเอาเงินก้อนใหญ่ลงไปนั่นแหละ จบ - ถ้าใครดูหนังเรื่อง The Wolf of Wall Street จะรู้ครับว่าวิธีนี้พระเอกก็ใช้ คือทำให้ลูกค้าดูว่าได้เงินมาจริงๆ นะ แต่สุดท้ายลูกค้าก็ต้องเอาเงินนั้นมาซื้อหุ้นตัวอื่นต่อ สรุปคือเงินไม่ได้เข้ามือจริงๆ แต่วนกลับเข้าบริษัท

  7. หวังดี spam มันได้จริงๆ นะ เราหวังดีอยากให้พวกนายศึกษา
    - โดยเฉพาะการโพสไปตาม wall ชาวบ้าน ตามกรุ๊ปต่างๆ โดยที่ไม่คิดว่าชาวบ้านจะรำคาญน่ะครับ นั่นไม่ได้หวังดีหรอก
    - ข้อนี้ถึงจะเป็นธุรกิจถูกกฎหมายได้จริง แต่ที่เค้าทำก็แค่เพื่อ % ของตัวเอง เท่านั้นแหละ
สุดท้ายอยากจะบอกว่า ถึงจะเป็นแชร์ลูกโซ่ก็มีโอกาสได้ตังครับ ถ้าเป็นหัว ได้เยอะด้วย แต่อย่าไปทำเลยครับ
ถ้ารู้ว่าเป็นลูกโซ่ก็รีบๆ ถอนตัว เป็นคนโง่โดนหลอกมาแล้ว ก็อย่ามาเป็นคนเลวหลอกเพื่อนตัวเองอีกต่อเลย
วันพุธที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2557

ปณิธาน 2014

ปณิธาน 2014
  1. เจอเพื่อน เจอชาวบ้านบ่อยๆ
  2. บันทึกรายรับรายจ่ายทุกวัน ตามจริง (ตอนนี้ใช้แอพนี้)
  3. กลับบ้านนอกให้ได้ 4 รอบ
  4. เรียนต่อ
  5. เที่ยวไกลๆ 1 รอบ
  6. นอนไม่เกิน เที่ยงคืน ตีหนึ่ง (แวว fail สูงมาก)
  7. เขียนแอพลงมือถือ 1 แอพ
  8. หัดลงทุน
  9. ออกกำลังกายอาทิตย์ละครั้ง
  10. ฝึกสกิลการเขียน/สื่อสารให้รู้เรื่องกว่านี้
ไว้ปีหน้ามาดูกันอีกที :)